ในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารเปิดกันง่ายแต่ก็ปิดตัวลงง่ายเช่นกัน ด้วยการแข่งขันที่สูงและดุเดือดถ้าเงินทุนไม่สูงพอก็อาจเอาตัวไม่รอด ยิ่งบางร้านเกิดจากการที่เจ้าของเก็บหอมรอมริบเงินทุนมาแทบทั้งชีวิตเพื่อทำฝัน “ร้านอาหาร” ให้เป็นจริง แต่มันอาจจะเจ๊งก่อนได้หากคุณไม่คิดเรื่องเหล่านี้ให้ดีก่อนเปิดร้าน! …ลองมาดู 5 ปัจจัยที่ควรคิดก่อนเปิดร้านอาหาร
“รู้” จักตลาด.. รู้ว่าจะขายอะไรอย่างไร
มีตัวเลขนึงน่าสนใจจากศูนย์วิจัย กสิกรไทย ณ มีนาคม 2562 ชี้ว่าเมื่อปีก่อนมีธุรกิจร้านอาหารเปิดใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 9% ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียวและการที่จะอยู่ให้รอดหลังจากเปิดร้านนั้นยากยิ่งกว่าหากยังไม่ชัดเจนว่าเรากำลัง..
- ขายอาหารประเภทใด
- ขายอาหารให้กับคนกลุ่มใด
หรือหากยังคิดไม่ออกแต่แค่อยากเปิดร้านอาหาร อาจลองเริ่มจากการหาข้อมูลเทรนด์ของอาหารที่กำลังมาแรง หรือเทรนด์อาหารที่ยังมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว รวมถึงพฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคก็สำคัญเช่นกัน
“รู้” ทำเล.. ว่าควรมีหน้าร้านอยู่ที่ใด
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญมาก ๆ ในธุรกิจนี้เราสามารถอ้างอิงได้จากหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นเพราะกลุ่มลูกค้าของเราจะเป็นใคร พวกเขามักอยู่ในที่ที่ใดและเจอเราได้ง่ายหรือจะเป็นเรื่องของที่จอดรถมีไหม การเดินทางมาร้านยากเกินไปไหม.. อาจจะต้องคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนค่าเช่าพื้นที่ด้วย แน่นอนว่าสิ่งที่คิดเหล่านี้เพราะร้านไม่สามารถย้ายได้ง่าย ๆ ลองพิจารณาให้เหมาะสมดู
“รู้” จักคู่แข่ง.. ต้องรู้ว่าเรากำลังแข่งขันกับใครในตลาด
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าในทุกปีมีร้านอาหารเปิดใหม่มากมาย (แต่ก็เจ๊งไปไม่น้อยเช่นกัน) ฉะนั้นการพยายามทำการตลาดเพื่อหาลูกค้าอาจยังไม่เพียงพออีกต่อไป เราควรมองให้ออกว่าคู่แข่ง(ร้านคู่แข่ง) มีร้านไหนบ้าง ..
อาจเริ่มมองจากเป็นประเภทร้านอาหารเดียวกัน กลุ่มลูกค้าคล้ายคลึงกัน หรือในย่านเดียวกัน โดยลองมองหาจุดแข็ง จุดอ่อน แนวทางในการทำการตลาดและการออกโปรโมชั่นดึงดูดกล่มลูกค้า และลองนำมาวิเคราะห์และปรับใช้เพื่อให้ได้แผนการทำตลาดที่เหมาะสมและไม่น้อยหน้าคู่แข่ง
“รู้” ว่าใครคือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
แน่นอนว่าการทำธุรกิจไม่ว่าจะประเภทใดสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้คือ กลุ่มลูกค้าเราคือใคร กลุ่มวัยไหน ชื่นชอบอาหารประเภทไหน มีลักษณะการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์อย่างไร
หรืออาจลองใช้เทคนิคการทำ “Persona” เพื่อระบุตัวตนของลูกค้าต้นแบบของเรา (ลูกค้าในอุดมคติ) ว่าเป็นอย่างไรก็อาจช่วยให้เห็นภาพมากขึ้น
หลังจากเรารู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นแบบไหนแล้วนั้นก็นำสิ่งนี้มาคิดแผนการตลาดเพื่อดึงดูดให้เข้ามาใช้บริการ หรือแม้แต่นำข้อมูลตรงนี้มาใช้เป็นองค์ประกอบในการคิดเมนู สไตล์การตกแต่งร้านก็ช่วยเพิ่มควมน่าสนใจได้เช่นกัน
“รู้” ว่าเรามีงบประมาณเท่าไหร่ จัดสรรงบประมาณอย่างไร
ทุกคนไม่รู้แต่คุณ(เจ้าของร้าน)รู้ว่าคุณมีงบประมาณในการเปิดร้านนี้เท่าไหร่.. แน่นอนว่ามันจะต้องถูกวางแผนและจัดสรรในการใช้กับหลายเรื่องที่ต้องทำ อาทิเช่น
- ค่าเช่า
- ค่าตกแต่งร้าน
- ค่าวัตถุดิบ
- ค่าแรงพนักงาน
- ค่าน้ำ ค่าไฟ
- ค่าการตลาด
เป็นต้น.. ซึ่งต้องถูกวิเคราะห์และวางแผนให้ดีเพราะในช่วงแรกเราไม่รู้ว่าจะมีรายได้เข้ามาเท่าไหร่ แต่เราต้องรู้ว่ารายจ่ายนั้นเท่าไหร่เพื่อบริหารให้ร้านอยู่รอดผ่านพ้นช่วงแรกไป
หากได้วางแผนอย่างเป็นระบบก็เชื่อว่าร้านจะสามารถอยู่รอดในตลาดแห่งการแข่งขันนี้ได้อย่างแน่นอน