Metaverse โลกยุคใหม่ที่ช่วยยกการตลาดของแบรนด์ขึ้นอีกระดับ
“เทคโนโลยีนั้นพัฒนาก้าวหน้าอยู่เสมอ”
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าโลกในปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอยู่เบื้องหลังในชีวิตประจำวัน และช่วยอำนวยความสะดวกสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรา
ในบทความนี้เราเลยจะมาพูดถึง “Metaverse” หรือการผสมผสานระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยการใช้เทคโนโลยี AR และ VR ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ก็เหมือนกับโลกที่อยู่ในหนัง Ready player one ที่มีทั้งโลกความเป็นจริง และโลกในเกม
ตอนนี้สังคมโลกเข้ายุค Metaverse หรือยัง?
หลายคนให้ความเห็นว่า ใช่สิ ตอนนี้โลกเราเข้าสู่ยุคเมตาเวิร์สแล้ว เพราะมีทั้งโลกอินเทอร์เน็ตช่วยให้ทุกคนสามารถติดต่อกับผู้อื่นได้ เสมือนการพูดคุยพบปะกันโดยตรง หรือการโอนเงินที่สามารถใช้แทนการจ่ายเงินสด หรือการมาของ Cryptocurrency ที่บางประเทศใช้จ่ายแทนสกุลเงินจริง และ NFT แปลงผลงานเป็นโทเคนแล้วสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ชิ้นนั้น ๆ ได้
เราขอตอบว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง! แต่ก็ถูกไม่หมดนะ เพราะตอนนี้โลกของเราพึ่งเป็น Metaverse ส่วนนึงเท่านั้น! เนื่องจากโลก Metaverse นั้นเป็นมากกว่านั้น คือโลกที่เราสามารถรวมทั้งโลกจริงและโลกเสมือนเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยเทคโนโลยี AR และ VR ซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีนี้เริ่มมาจากวงการเกม และวงการหนังหรือสื่อบันเทิงที่นำมาใช้สร้างความบันเทิงให้กับผู้บริโภคเจ้าแรก ๆ
บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องของเทคโนโลยี และข้อแตกต่างของ AR และ VR สักเท่าไหร่ แล้วคงสงสัยใช่มั้ยว่า Metaverse จะทำให้แบรนด์เราแตกต่างและโดดเด่นจากแบรนด์อื่นได้ไง เราจะมาเล่าให้ฟัง
AR vs VR สองเทคโนโลยีคู่แฝดที่เหมือน แต่ก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
มาเริ่มกับตัวแรกก่อนอย่าง AR หรือ Augmented reality คือเทคโนโลยีมาผสมผสานระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกความเป็นจริง โดยการใช้ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ แสดงผ่านจอ เพื่อให้เราสามารถมองเห็นเป็น pop-up รูปภาพ วิดีโอ รูปเสมือนได้โดยตรง ยกตัวอย่างเช่น
- เกม pokemon go ที่เคยเป็นกระแส แล้วคนต้องคอยวิ่งตามจับ โดยใช้โทรศัพท์เราส่องไปยังที่ต่าง ๆ
- เทคโนโลยีสื่อการสอน เช่น หนังสือเรียนด้านการแพทย์ที่ใช้โทรศัพท์ หรือแท็บแล็ตส่องเห็นเป็นภาพสามมิติของสรีระร่างกาย หรือหนังสือเด็กเล็ก
ส่วน VR หรือ Virtual reality เป็นเทคโนโลยีที่เราสามารถมองเห็นโลกเสมือนจริงโดยตรงผ่านสมาร์ตโฟน และแว่น VR และตัดขาดจากโลกจริง ซึ่งเทคโนโลยีนี้นิยมใช้กันมากในวงการภาพยนตร์หลากหลายเรื่อง เช่น SPHERES: Songs of Spacetime, BUDDY VR และ L’île des morts / Isle of the dead ที่เป็นผลงานหนังสั้นแบบ VR คว้ารางวัลจากกงาน Venice Flim Festival 2018 ส่วนเกมเสมือนจริง อย่าง Araya ที่เป็นเกมฝีมือคนไทย หรือใครที่เคยเดินห้างแล้วเห็นมีคนสวมแว่นแปลก ๆ บางทีเขาก็สะดุ้งบ้าง กรื๊ดบ้างล่ะ แต่เราไม่รู้เรื่องกับเขาเลยว่าเขาดูอะไรอยู่นั้นแหละ คือ เทคโนโลยี VR ใครที่ได้ลองใช้ VR ก็อย่าลืมนะว่าคนอื่นเขาไม่ได้รู้กับเราว่าเราดูหรือทำอะไรอยู่ ระวังเพื่อนมาแอบถ่ายแกล้งเรา อย่าหาว่าเราไม่เตือนนะ
จะเห็นได้ว่าทั้งสองเทคโนโลยีคู่ดูโอ้อย่าง AR (Augmented reality) กับ VR (Virtual reality) นั้นจะมีความเหมือนที่เป็นจำลองโลกเสมือน แต่ต่างกันที่ลักษณะการจำลอง เมื่อนำมาผสมผสานร่วมกันจึงทำให้เกิดยุคเมตาเวิร์ส
ยุค Metaverse นั้นจะยกระดับแบรนด์ของเรายังไง?
เราคงเริ่มพอจะเข้าใจความหมายและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับยุคเมตาเวิร์สแล้วใช่มั้ย จริง ๆ แล้วเทคโนโลยีทั้ง AR และ VR นั้นก็มีมานาน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับอินเทอร์เน็ต เพียงแต่อยู่ที่แต่ละองค์กรจะนำมาพัฒนาหรือใช้ยังไงให้เกิดผล เราเลยจะมายกตัวอย่างแบรนด์ดังที่มีการใช้เทคโนโลยีทั้งสองอย่างนี้เพื่อต้อนรับยุคเมตาเวิร์สและนำไปประยุกต์กับการตลาดยังไง? พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
อย่างที่ทุกคนเห็นกันในข่าวการเปิดตัวจนดังกระหน่ำของแบรนด์แว่นดังระดับโลกอย่าง Ray-Ban ที่จับมือกับเฟซบุ๊กพัฒนา “Ray-Ban Stories” ร่วมกับพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ โดยใช้ระบบเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงของ AR ที่ทำให้ชีวิตประจำวันและการใช้โซเชียลมีเดียเราไหลลื่น ไม่มีสะดุด มีฟีเจอร์การถ่ายรูป อัดวิดีโอขณะที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ออกกำลังกาย คุยเล่นกับเพื่อน หรือถ่ายเก็บบรรยากาศที่น่าจดจำก็สามารถทำได้ง่าย ๆ และอัพขึ้นโซเชียลได้เลย
กับอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ทางเฟซบุ๊กพัฒนาเพื่อให้โลกก้าวเข้าสู่ ‘Metaverse’ คือ Horizon Workrooms ที่เป็นแอปพลิเคชันประชุมออนไลน์ได้เสมือนจริง เอาใจคนทำงานที่คิดถึงบรรยากาศการพูดคุยแบบเก่า ๆ เฟซบุ๊กจึงได้แอปพลิเคชันนี้โดยเราจะใช้อวตาร์แทนตนเอง ซึ่งการจะเข้าร่วมประชุมนี้ต้องใส่แว่น Oculus Quest 2 ที่เป็นแว่นตา VR ด้วยนะ
ทาง Mark Zuckerberge ซีอีโอของเฟซบุ๊ก ได้กล่าวไว้ว่า ‘เฟซบุ๊กนั้นในอีก 5 ปีข้างหน้าจะก้าวข้ามจาก Social Media Company สู่ Metaverse’ ทั้งสองโปรเจกต์ของเฟซบุ๊กที่ได้ออกมาเปิดตัวนั้นสื่อให้เห็นว่าเขาเอาจริง ไม่ได้แค่พูดเล่น ๆ นะจ๊ะ โดยตัวมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ดมองว่าในอนาคตเทคโนโลยีในเมตาเวิร์สจะมาเกี่ยวข้องกับผู้คนมากขึ้น
Xiaomi
แบรนด์ผู้นำเทคโนโลยีจากทางเอเชียผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมาก็ไม่น้อยหน้าอย่าง ‘Xiaomi’ ที่ปล่อยตัววิดีโอเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะมาท้าชน Ran-Ban Stories โดยการเพิ่มฟีเจอร์ให้เป็นมากกว่าถ่ายรูป หรืออัดวิดีโอ โดยสามารถช่วยแปลภาษา รวมถึงช่วยนำทางที่ครบเครื่องด้านการใช้งาน
IKEA
ใครที่ตกแต่งบ้านแต่คิดไม่ตกว่า ถ้าเราซื้อมาแล้วจะเข้ากับตัวบ้านเราจริงมั้ย ตอนดูก็สวยดีอยู่หรอกแต่พอนำเฟอร์นิเจอร์ที่เราซื้อแล้วมาวางกลับเหมือนหนังคนละม้วน ทาง IKEA ผู้เป็นบริษัทชั้นนำด้านการตกแต่งบ้าน ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้ของผู้บริโภคจึงได้มีพัฒนาแอปพลิเคชัน Ikea place โดยใช้เทคโนโลยี AR ที่ทำให้กลุ่มลูกค้าจำลองสินค้าที่ตนเองสนใจเหมือนมาวางจริง ๆ ที่บ้านตัวเอง รวมถึงคู่มือการสอนประกอบเฟอร์นิเจอร์รูปแบบสามมิติ ที่เพียงแค่ใช้โทรศัพท์เราส่องไปยังพื้นที่ที่เราต้องการ และอีกโปรเจกต์ IKEA VR ที่เราสามารถลองตกแต่งบ้านได้เสมือนจริง เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนกับเราสร้างบ้านในเดอะซิมนั้นแหละ
แล้วแบรนด์ของไทยมีใช้เทคโนโลยี Metaverse กับเขาบ้างมั้ย?
เทคโนโลยีดี ๆ อย่าง AR กับ VR ประเทศไทยอย่างเรา ๆ จะพลาดได้ไง อย่างแบรนด์เด่น ๆ ที่เราเห็นก็จะมีแบรนด์ AIS ที่มีการออกแอปพลิเคชันอย่าง AIS 5G PLAY VR เพื่อให้เราสัมผัสกับความสมจริงของโลกเสมือนจริงในหนังผ่านแว่น VR และอีกแอปพลิเคชันอย่าง AIs 5G PLAY AR ที่ทำให้เราสนุกกับการถ่ายรูปและวิดีโอ โดยเราสามารถเติมแต่งจินตนาการเพิ่มเติมสัตว์เลี้ยงสามมิติเหมือนยกสวนสัตว์มาไว้ในบ้าน หรือจะให้มาสคอตของ AIS มาเต้นอยู่ข้างเราก็ได้ กับอีกโปรเจกต์ของ AIS อย่าง..
‘Virtual Restaurant’ ที่ทาง AIS ร่วมมือกับบาร์บีคิวพลาซ่า สร้างร้านอาหารรูปแบบ Virtual reality ที่เหมือนเราได้กลับไปนั่งกินบุฟเฟต์ ปิ้งย่างอีกครั้งถึงแม้จะเทียบกับประสบการณ์จริงไม่ได้ แต่ก็คงชวนให้หลายคนหายคิดถึงหรือเพิ่มสีสันการกินอาหารมากกว่าการกินอาหารแบบเดิมที่บ้าน
จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลากหลายแบรนด์ที่มีการใช้เทคโนโลยีในยุคเมตาเวิร์สอย่าง AR และ VR มาช่วยยกระดับแบรนด์และส่งเสริมการขาย เช่น แบรนด์รถยนต์ หรือแอปพลิเคชันขายสินค้ามีการสอดแทรกการใช้ AR ในการพรีเซนต์สินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคสัมผัสประสบการณ์ใหม่เหมือนได้ใช้เองอีกด้วย
Contact US
Line Official : https://lin.ee/Qtmh0wh
Instagram : https://bit.ly/3gQHTdm
E – mail : masterplanmedia.th@gmail.com
Tel : 090 – 950 – 5544
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก
marketingoops . tnnthailand . blockdit . efinancetha . nsm . thairath . voathai . moneybuffalo . greatitude . ananda . blognone . ais . marketingoops