“หน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” … ที่ขอใช้ในมุมมองของหน้าตาอาหารและคนที่จะรังสรรค์ความสวยงามให้กับอาหารก็เป็นใครไปไม่ได้นั่นก็คือ “Food Stylist”
??????
หน้าที่ของฟู้ดสไตลิสต์ (Food Stylist) คือ ตกแต่งอาหารให้สวยงาม ชวนรับประทานโดยมักทำงานควบคู่กับเชฟและช่างภาพ แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักคือสร้างมูลค่าให้กับตัวอาหาร
ทำให้ผู้ที่จะมาทำอาชีพนี้ต้องเป็นคนที่มีรสนิยม ชอบผสมผสานให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่างและกระตุ้นให้คนเห็นอาหารแล้วอยากทานจึงเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยการเรียนรู้ ประสบการณ์และจินตนาการ
Food Stylist ไม่จำเป็นต้องทำอาหารเก่งแต่ต้องเข้าใจในเรื่องของอาหารและวัตถุดิบ ..ลองมาดูตัวอย่างหลักการคร่าว ๆ ที่เหล่าฟู้ดสไตลิสต์มักใช้ในการจัดวางให้อาหารออกมาน่าทานกันดีกว่า
1️⃣ สร้างโครงร่าง โดยเริ่มต้นจากการวาดรูป วาดโครงคร่าวๆให้เห็นภาพจานอาหาร เลือกหยิบส่วนผสมที่ต้องการวางลงไปบนจาน และใช้พื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อทำให้การตกแต่งอาหารดูเรียบง่าย
2️⃣ สร้างสมดุลบนจาน เล่นสี รูปทรงและเนื้อพื้นผิว เพื่อให้มั่นใจว่าคนที่รับประทาน จะไม่รู้สึกว่าเยอะเกินไป และการจัดตกแต่งอาหาร ไม่ควรกลบรสชาติและประโยชน์ของอาหารนั้นด้วย
3️⃣ สัดส่วน ปริมาณส่วนผสมที่ถูกต้อง และใช้ตัวจานช่วยเติมเต็มให้อาหารดูสมบูรณ์ โดยมีขนาดไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ใช้สัดส่วนโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และผักที่ถูกต้อง เพื่อสร้างสรรค์อาหารที่ได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
4️⃣ เน้นส่วนผสมหลัก จัดจานโดยเน้นส่วนผสมหลักให้มีความโดดเด่นออกมา และให้ความสำคัญกับวัตถุดิบรองอื่น ๆ อย่างเท่าเทียมกัน เช่น ของตกแต่งจาน ซอส และแม้กระทั่งตัวจานเองด้วย
5️⃣ จัดวางแบบคลาสสิก เทคนิคการจัดวางแบบคลาสสิกจะใช้อาหารพื้นฐาน 3 อย่าง คือแป้ง ผัก และอาหารหลัก ในการจัดวางที่เฉพาะเจาะจง แนวทางง่าย ๆ ในการจัดจานแบบคลาสสิกคือคิดว่าจานอาหารเป็นหน้าปัดนาฬิกา
ในยุคปัจจุบันที่หลายธุรกิจก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคดิจิตอลและสื่อออนไลน์อย่างโซเชียลมีเดีย ทำให้ธุรกิจอาหารก็ต้องปรับตัวไม่แพ้กันในทั้งเรื่องการโปรโมทร้านและเมนูอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าภาพเมนูอาหารต้องทำให้ดึงดูดสายตาของกลุ่มลูกค้า
จึงทำให้อาชีพอย่าง Food Stylist มีความสำคัญกับธุรกิจร้านอาหารอย่างมากในปัจจุบัน
