หากคนที่คุ้นเคยกับการใช้งาน Facebook Ads อยู่แล้วก็อาจจะดูเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่อาจยังใช้เครื่องมือได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ วันนี้อยากลองมายกตัวอย่างหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณระบุกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำและชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย “Facebook Custom Audience”
Facebook Custom Audience คือ?
โดยปกติทั่วไปแล้วเทคนิคการกำหนดกลุ่มเป้าหมายมีหลากหลาย เช่น กำหนดเพศ ช่วงอายุ โลเคชั่น ภาษา รวมถึงกลุ่มของความสนใจเป็นต้น
แต่หากต้องการกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนกว่านั้นก็ต้องใช้ Facebook Custom Audience ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ อาจเป็นลูกค้าเก่าของคุณ ผู้ที่สนใจในสินค้าและบริการของคุณ หรือคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาก่อน ซึ่งมีผลดีกว่าการทำโฆษณาแบบสุ่ม ซึ่งอาจได้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า
โดยองค์ประกอบของเมนู Custom Audiences จะแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
1.ข้อมูลที่แบรนด์มีอยู่แล้ว ( เมนู Use Your Sources )
ข้อมูลประเภทแรกคือ ข้อมูลที่ทางแบรนด์อัปโหลดด้วยตนเอง เช่น
- ลิสต์รายชื่อจาก Email : คุณสามารถอัปโหลดไฟล์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ รายชื่อ อีเมล และ Mailchimp ได้โดยใช้ไฟล์ประเภท .csv or .txt file
- Mobile App Data : ในกรณีที่แบรนด์มีแอปพลิเคชันอยู่แล้ว คุณสามารถลงทะเบียนกับทาง Facebook เพื่อขอ SDK เพื่อทำการ Retargeting ได้เลย
- ผู้เยี่ยมชมและซื้อสินค้าผ่าน Website : คุณสามารถติด Facebook Pixel เพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมาย ที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์และเคยซื้อสินค้าและบริการมาก่อน
- ลิสต์จากผู้เข้าร่วมงาน Event : คุณสามารถอัปเดตข้อมูลลูกค้าที่เคยเข้าร่วม Event หรือกิจกรรมกับทางแบรนด์โดยการใช้ไฟล์ประเภท .csv or .txt file
2.แหล่งข้อมูลจาก Facebook : (เมนู Engagement Custom Audiences)
ข้อมูลประเภทที่สองจากผู้ใช้ Facebook ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับทางเพจเรามาก่อน ซึ่งเมนูตัวนี้ จะใช้ข้อมูลเล่านี้เพื่อประมวณผลเพื่อหากลุ่มเป้าหมายให้กับเรา
- การกดแชร์โพสต์วิดีโอ : คุณสามารถเลือกวิดีโอได้มากกว่า 1 ตัวและเลือกระยะเวลาที่ผู้ใช้ Facebook เคยกดเข้ามาซึ่งจะมีตั้งแต่ 3 วินาทีแรก ไปจนถึง 95% ของวิดีโอทั้งหมด
- การเข้าร่วมงาน Event กับทางแบรนด์ : หากแบรนด์ของคุณเคยสร้าง Event ผ่าน Facebook Page มาก่อนหน้านี้ คุณสามารถสร้าง Custom Audience ได้จากเมนูนี้
- Lead forms : คุณสามารถดึงข้อมูลได้จากแบบฟอร์มที่ลูกค้าเคยสมัครเอาไว้จาก แบบฟอร์มลงทะเบียน แบบฟอร์มขอรับ Promo code เป็นต้น
- Instagram Business Account : คุณสามารถใช้ Business Account เพื่อเลือกข้อมูลหากลุ่มเป้าหมายจากผู้ที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมหน้าโพรไฟล์ของคุณบน Instagram
- Facebook Page : ตัวเลือกนี้มีความคล้ายกันกับ Instagram ซึ่งคุณสามารถเลือกบัญชีธุรกิจที่มีอยู่ และเลือกเมนูใน Engagemen
เพียงแค่เลือกใช้ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการสร้างแคมเปญก็สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น และยังลดต้นทุนในการจ่ายค่าโฆษณาได้อีกด้วย
Cr: adespresso.com/blog, stepstraining.co