Feature stories

เพิ่มมิติใหม่ให้ Packaging Design ด้วยเทคโนโลยี AR 

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

หัวข้อที่น่าสนใจ

เวลาเราทำสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ ย่อมมี Packaging เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ แล้วจะดีกว่ามั้ยถ้าเราทำ Packaging Design ให้แปลกใหม่และโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด?

ทำให้แบรนด์ธุรกิจในต่างประเทศเริ่มมีการใช้เทคโนโลยีอย่าง “Augmented Reality หรือ AR” เข้ามาเพิ่มสีสันให้แพคเกจจิ้งแบบเดิม ๆ ของเรา ซึ่งการที่เราเพิ่ม AR เข้ามานี่ไม่ได้เพิ่มแค่เอาสนุก หรือนึกอยากใส่ก็ใส่นะ! 

แต่การเพิ่มเทคโนโลยี AR เข้ามานั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิดนะ! ใครที่สนใจอยากศึกษาเพิ่มเติม หรืออยากให้แบรนด์ตัวเองลองทำแพคเกจจิ้งสุดต๊าชแบบนี้ ก็เข้าไปอ่านบทความนี้ เราได้รวบรวมตั้งแต่ประโยชน์ วิธีการทำ ไปจนถึงแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีการออกแบบ Packaging โดยใช้ AR ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปดูด้วยกันเลย 

ก้าวแรกที่ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์กับ “แพคเกจจิ้ง (Packaging)”

แพคเกจจิ้ง หรือบรรจุภัณฑ์ (Packaging) นั้นเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะได้เห็นเมื่อซื้อสินค้าของแบรนด์เรา เราจะเห็นได้ว่ามีการดีไซน์แพคเกจจิ้งมากมายหลากหลายมากในตลาด ซึ่งตัวแพ็กเกจนั้นมีหน้าที่ที่หลากหลาย คือ 

  1. การปกป้องและป้องกันสินค้า (Protect)

การปกป้องและป้องกันสินค้าถือเป็นหน้าที่หลักของ Packaging เลยก็ว่าได้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ มีผลต่อคุณภาพของสินค้า ยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างวิตามินซีนั้นไม่สามารถถูกแสงแดดได้ เพราะจะทำให้วิตามินซีสลาย ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องผลิตบรรจุภัณฑ์เป็นขวดสีชา

  1. สื่อสารและให้ข้อมูลกับลูกค้า (Information)

แพ็กเกจจิ้งแต่ละแบรนด์นั้นมีการติดฉลากกันอยู่แล้ว ซึ่งในฉลากนี่แหละที่จะมีการให้ข้อมูลกับลูกค้า ยิ่งข้อมูลเราชัดเจนเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นข้อมูลที่ดีต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เช่น ส่วนประกอบ ผลิตจากที่ไหน วันเดือนปีผลิตและหมดอายุ เป็นต้น

  1. ดึงดูดความสนใจ (Consumer Appeal)

แพ็กเกจจิ้งถือเป็นหน้าตาของแบรนด์เลยนะ ยิ่งเป็นการดีไซน์ฉลากก็เหมือนการที่เราเลือกเสื้อผ้าชุดเตรียมพรีเซ้นขึ้นเวทีนำเสนอให้ลูกค้าดู เพื่อสู้กับคู่แข่ง ทำให้เราเห็นแพ็กเกจจิ้งที่ดีไซน์กิ๊บเก๋แปลก ๆ อยู่ตลอด โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของการดีไซน์ Packaging ที่มีไอเดียแหวกแนวสร้างสรรค์ไม่ซ้ำใคร แถมช่วยทำให้สินค้าดูเด่นด้วยนะ! 

  1. ช่วยเพิ่มมูลค่า และส่งเสริมการขาย (Profit & Value Added)

เคยเห็นมั้ยว่า สินค้าบางอย่าง ทั้งๆที่เหมือนกันแท้ๆ แต่อันที่ใส่ในแพคเกจจิ้งสวย เพื่อเป็นของขวัญ ของฝากนั้นราคาสูงพุ่งปรื๊ดจนรู้สึกเหมือนจะหน้ามืดกันเลยในบางอัน เป็นเพราะ “Packaging” นี่แหละที่ช่วยอัพมูลค่าสินค้าได้ อีกทั้งยังช่วยโปรโมทให้แบรนด์ไปในตัวด้วยจากการที่ติดตราโลโก้ รูปลักษณ์ดีไซน์ ยิ่งถ้าแบรนด์ไหนดีไซน์แพคเกจจิ้งได้มีเอกลักษณ์ชนิดที่ว่ามองปุ๊บรู้ปั๊บเลย ก็ถือว่าเป็นการโปรโมทให้แบรนด์แทนการโฆษณาได้เลยนะ

  1. โปรโมชั่น และโปรโมทสินค้า (Promotion)

เก็บฝาชิงโชคลุ้นรับทอง มอเตอร์ไซค์ไปเลย! หรือจะ Tie in บนฉลากว่าเก็บซองสินค้าไว้เพื่อรอแลกรับของสมนาคุณต่าง ๆ ฯลฯ นั้นแหละเป็นการโปรโมทสินค้าไปในตัวโดยใช้แพคเกจจิ้ง หรือจะเป็นการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์ให้เข้ากับช่วงเทศกาล และอีเวนต์สำคัญ เช่น วันกินเจ ปีใหม่ วาเลนไทน์ เป็นต้น เพราะบางสินค้า ยิ่งมีช่วงเทศกาลก็ยิ่งขายดีขึ้นไปใหญ่ เช่น ช่วงวาเลนไทน์ ธุรกิจด้านช็อกโกแลตนั้นมียอดซื้อพุ่งทะลุแรงมาก เพราะเป็นช่วงที่คนซื้อไปให้คนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตที่ให้ตามมารยาทกับเพื่อน แฟน ครอบครัว คนที่เราแอบคิดไม่ซื่อ 

ประโยชน์ของแพ็กเกจจิ้งนั้นมีมากกว่าแค่ใส่ของอย่างที่ใครคิดกัน แต่ในปัจจุบันที่มีคู่แข่งสูง และมีเทคโนโลยีที่พัฒนาไปก้าวหน้ามาก ทำให้แต่ละแบรนด์คิดวิธีการสร้างความยูนีค หรือเอกลักษณ์ของแบรนด์ ไปจนถึงสร้างกิมมิคให้ธุรกิจเราเด่นกว่าคู่แข่ง ซึ่งในตอนนี้ก็มีการนำแพ็จเกจจิ้งมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยี AR แล้วแต่ละแบรนด์จะใช้ยังไง ถ้าเราอยากทำบ้างต้องทำยังไงล่ะ? เดี๋ยวเราจะมาบอกให้ฟัง

การใช้เทคโนโลยี AR ในแพ็กเกจจิ้ง (Augmented Reality for Packaging)

ยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันเราจนกลายเป็นส่วนหนึ่งจนเรียกได้ว่าตอนนี้โลกเราเข้าสู่ยุค ‘Metaverse’ ทำให้มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาช่วยอำนวยความสะดวก เช่น เทคโนโลยี VR และเทคโนโลยี AR

แต่เราจะโฟกัสแค่ “เทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality” ใครที่ยังไม่รู้จักกับเทคโนโลยีนี้เราจะอธิบายให้ฟังแบบสั้น ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี AR นั้นคือเทคโนโลยีที่ทำให้เราเห็นเป็นรูป 3 มิติ จากการสแกนผ่านโทรศัพท์โดยใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ใครที่อยากรู้จักเทคโนโลยีนี้แบบละเอียดเจาะลึกเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปตามอ่านต่อได้ที่ Link

 แล้วรู้รึเปล่าว่าเทคโนโลยี AR ที่นำมาประยุกต์ใช้บนแพคเกจจิ้งนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิดนะ ถ้าอยากรู้ว่ามีประโยชน์อะไรบ้างก็ไปศึกษาด้วยกันได้เลย!

ประโยชน์ของเทคโนโลยี AR บน แพ็กเกจจิ้ง

  • สร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้า (Unique Shopping experience)

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าตอนนี้ในตลาดมีคู่แข่งอยู่มากในสินค้าทุก Catagory ทำให้แบรนด์ธุรกิจมีการใช้เทคโนโลยีเพิ่มสร้างประสบการณ์ที่ยูนีคให้กับผู้บริโภค เพราะการที่เราขายสินค้าบริการก็มีเหมือนกันหมดในตลาด ทำให้แต่ละแบรนด์จึงต้องเพิ่มลูกเล่นเพื่อสร้างประสบการณ์ และดึงดูดลูกค้า ฟังดูแล้วคงสงสัยว่าแค่ใส่เทคโนโลยีเพิ่มสีสันต่าง ๆ เข้าไปในแพ็กเกจจิ้งเนี่ยนะจะทำให้ลูกค้าสนใจ นี่เลยเราไปดูมาจากงานผลการสำรวจเชิงลึกของ Innovative research flirm พบว่า ลูกค้าถึง 84% ให้ความสำคัญและสนใจซื้อสินค้าที่มีการใช้ innovation เลยนะ!

ตัวอย่างแบรนด์: Bombay Sapphire x Shazam ที่เพิ่มสีสันให้รูปลักษณ์ของแบรนด์ด้วยธีมธรรมชาติ ๆ และสอดแทรก recipe ไปจนถึงทริคขั้นตอนการทานค็อกเทลในแบบของแบรนด์เองด้วยนะ

  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีของแบรนด์กับลูกค้า (Customer Engagement)

นอกจากการสร้างประสบการณ์แล้ว การใช้เทคโนโลยี AR ใน Packaging นั้นยังเล่นกับอารมณ์และเอนเตอร์เทนลูกค้าได้ด้วยนะ จนรู้สึกตื่นเต้น จนร้องว้าว! ไปตาม ๆ กัน เหมือนของแบรนด์ McDonald’s ที่ใช้ Packaging โปรโมทสินค้าตัวเองในช่วงแข่ง FIFA World cup ที่สร้างเกมฟุตบอลแบบง่าย ๆ มาตั้งไว้ที่โต๊ะที่บ้านให้เราอินกับช่วง โดยใช้แค่แพคเกจจิ้งจากชุดแฮปปี้มีลของเรานั่นเอง

หรือจะเป็นแบรนด์ 19 Crimes Wine ที่มีการใช้ AR ประยุกต์กับ Storytelling ในการเล่าเรื่องของไวน์แต่ละขวดเพื่อสร้างกิมมิคให้กับแบรนด์

  • ปรับเปลี่ยนได้ง่าย (Flexibility & Adaptability to change)

รู้รึเปล่ากว่าจะเป็นสื่อแคมเปญหรือโฆษณาต้องผ่านฝ่าย Production, Creative ฯลฯ จนออกมาให้เราได้เห็นกัน ยิ่งถ้าพวกโฆษณาหรือทำเป็นป้ายบิลบอร์ดก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะกว่าจะเปลี่ยนแต่ละครั้งไม่ได้เปลี่ยนได้ง่าย ๆ ต่างจากการใช้เทคโนโลยี AR ที่ถ้าเราอยากเปลี่ยนและลงเเคมเปญใหม่ก็แค่ Update ใหม่ในแพลตฟอร์มเท่านั้น เช่น ช่วงนี้มีเทศกาลปีใหม่ คริสมาส หรือแคมเปญรณรงค์ต่าง ๆ เราก็ปรับเปลี่ยนได้ง่าย

ตัวอย่างแบรนด์: Milka แบรนด์ช็อกโกแลตจากสวิตเซอร์แลนด์ได้มีการออกแบบแพคเกจจิ้งรูปแบบ AR ที่ช่วยเราเคาท์ดาวน์วันก่อนจะถึงวันปีใหม่

rd3dGBIXJwPLJKWv8Ntr9uBGjYYDr9QPQFMtL4bbM073 EtQAm1VGVCG0utwbWk

  • เพิ่มพื้นที่พูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้ (Communication & information sharing)

เราเชื่อว่าใครทำแบรนด์อาจจะต้องเคยประสบปัญหานี้ อยากสร้างสตอรี่ของสินค้าไปในฉลากให้ลูกค้าอ่าน แต่ แต่ แต่!! ฉลากพื้นที่กลับไม่พอนี่สิ บอกเลยเทคโนโลยี AR จะช่วยเราแก้ปัญหานั้นได้ เพราะเราจะใส่เนื้อหาเท่าไหร่ก็ได้ บอกลาพื้นที่จำกัดได้เลย โดยเราจะยกตัวอย่างคอนเทนต์ที่แบรนด์นิยมนำมาใส่ในเทคโนโลยี AR มีดังนี้ ข้อมูลโภชนาการ, สูตรอาหารของสินค้า (Recipe), ข้อมูลบริษัท, อีเวนต์ต่างๆ, แคมเปญรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม, เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ไปจนถึงมินิเกม ควิซขำ ๆ ให้เราเล่นกัน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีนี้จะทำให้คอนเทนต์เรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นแค่ข้อความ หรือรูปภาพแล้ว เรายังสามารถแอดเสียง วิดีโอ ไปจนถึงอนิเมชั่น และการสร้างเกมสั้น ๆ ให้ลูกค้าเราได้ลองเล่นกัน

ตัวอย่างแบรนด์: W-in-a-box ของ SIG ที่ใช้เทคโนโลยี VR ในการให้ความรู้เกี่ยวประโยชน์ของน้ำ ไปจนถึงมีแคปชันของสินค้าเพื่อเพิ่มกิมมิคของแบรนด์อีกด้วยนะ

  • สร้างกระแสให้ไวรัล (Viral marketing opportunities)

กระแสไวรัล หรือเป็นกระแสที่พูดกันแบบปากต่อปาก (Word-of-mouth) ซึ่งกระแสนี้นักการตลาดอย่างเรา ๆ คงรู้จักกันดี เพราะสร้างอิมแพคอย่างมากในแต่ละที และจากงานวิจัยก็มีการกล่าวไว้ว่า “ผู้บริโภคให้ความสนใจและเชื่อในข่าวที่บอกกันแบบ world-of-mouth” มากกว่าการดูสื่อโฆษณาสูงถึง 92% 

พอเราพูดถึงกระแสไวรัลเราก็ไม่พูดถึงกลุ่มนี้ไม่ได้อย่าง ‘มิลเลนเนียล (Millennials)’ หรือกลุ่มประชากรชาว Gen Y ที่คลุกคลีกับเทคโนโลยีมานาน ซึ่งคนกลุ่มนี้ให้ความสนใจและเชื่อกับโฆษณาที่ใช้เทคโนโลยีแบบ AR (85%) มากกว่าโฆษณาแบบปกติ 

  • ประหยัดงบประมาณ (Cost-effectiveness)

ทำไมการใช้เทคโนโลยีแบบ AR ถึงช่วยประหยัดงบ? การใช้ AR ช่วยเราได้ 2 อย่างคือ ทำให้แบรนด์เราไม่ต้องดีไซน์แพคเกจจิ้งใหม่ให้เข้ากับคอนเทนต์มากนัก เพราะเราแค่เพิ่ม QR code เข้าไปเราก็สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ ๆได้แล้ว เราจะคอยอัปเดตก็ได้นะ ต่อมาเหตุผลที่สอง คือเราไม่ต้องสร้างสินค้า หรือมีเดียใหม่ เพียงแค่เรามีแพคเกจจิ้งเราก็สามารถสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลายได้แล้วนั่นเอง

ยกตัวอย่างแบรนด์: Pringles ที่มีมินิเกมหลากหลายให้เราได้เลือกเล่น วิธีเล่นก็ง่าย ๆ แค่เราเอากล่องพลิงเกิ้ลมาส่องผ่านเราก็เล่นเกมได้เลย!

การใช้เทคโนโลยี AR ร่วมกับแพคเกจจิ้งเหมือนเปิดมิติใหม่ให้ Packaging ของเราเป็นมากกว่าเดิม ซึ่งใครที่เริ่มสนใจอยากลองทำแพคเกจจิ้งแบบนี้บ้าง เราก็รวบรวมวิธีทำที่สามารถนำไปประยุกต์เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์เราได้

วิธีใช้ AR Packaging ในการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด 

การทำแพ็กเกจจิ้งโดยใช้ AR นั้นต้องพึ่งทีมงานที่มีสายงานหลากหลายในการทำแพคเกจจิ้งรูปแบบนี้ขึ้นมาใครที่อยากฟอร์มทีมเราก็แนะนำให้หาคนที่เป็นเชียวชาญในด้านนั้น ๆ ซึ่งแบ่งได้ ดังนี้

  • ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาเทคโนโลยี AR และนักพัฒนาเทคโนโลยี AR ในแอปพลิเคชันมือถือ – พัฒนาเทคโนโลยี AR ให้เข้ากับแคมเปญที่แบรนด์ต้องการสื่อ
  • นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) – ดีไซน์รูปลักษณ์ของแอปพลิเคชันให้ดูดี มีความสวยงามและมีระดับ
  • ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ UI/UX – พัฒนาให้แอปพลิเคชันที่ใช้เล่นเทคโนโลยี AR นั้นสามารถใช้ง่าย สะดวกกับผู้ใช้งาน

การทำแพ็กเกจจิ้งในรูปแบบ AR นั้นต้องใช้สายงานที่หลากหลายรูปแบบมาช่วยกันพัฒนา เราอาจจะยังไม่เห็นเทคโนโลยีนี้บูมมากในไทย แต่ก็เริ่มมีแบรนด์ที่มีการใช้เทคโนโลยีของ AR มาประยุกต์ใช้ในแพคเกจจิ้งของไทย อย่าง แบรนด์อิชิตัน x True 5G ที่มีคิดแคมเปญ ‘สุขปังทุกฝา รหัสอัจฉริยะ’ ร่วมกันดีไซน์แพคเกจจิ้ง AR ที่ใช้น้องมาสคอตมาช่วยเพิ่มสีสันให้กับสินค้าแบรนด์

​​

ถ้าอยากติดตามบทความดีๆ สามารถไปอ่านต่อได้ที่ link

Contact US

Line Official : https://lin.ee/Qtmh0wh

Instagram :

E – mail : masterplanmedia.th@gmail.com

Tel : 090 – 950 – 5544

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก BetterMarketing. EverdayMarketing. Jasoren. SME Thailand club. VIRAL Nation