เทียบกัน ชัดๆ ระหว่าง Evergreen Content Vs. Topical Content เราเคยพูดถึงข้อดีของการทำคอนเทนต์ แบบ Real Time กันไปแล้วว่าเป็นที่นิยมในปัจจุบันมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับคอนเทนต์ทุกประเภท ถ้าให้พูดถึงการทำคอนเทนต์ในเชิงบทความ SEO แล้ว คงจะไม่เหมาะกับการทำคอนเทนต์แบบมาไวไปไวสักเท่าไหร่
ในบทความนี้ MASTERPLAN MEDIA จะพาไปทำความรู้จักกับ Evergreen Content หรือ คอนเทนต์ที่มีเนื้อหาที่สดใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน ไม่สลายไป หรือเรียกภาษาบ้านๆว่า คอนเทนต์ที่ฆ่าไม่ตายนั่นเอง มากไปกว่านั้น แอดมินจะมาเทียบให้ดูชัดๆ กันไปเลยว่า Evergreen Content หรือ Topical Content แบบไหนเหมาะกับการสร้างบทความ SEO มากกว่ากัน ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย!
Evergreen Content คืออะไร?
เชื่อว่านักการตลาดรุ่นเดอะหลายคนคงรู้จักคอนเทนต์ประเภท Evergreen นี้แล้ว เอาเป็นว่าขอ เล่าให้ฟังแบบสั้นๆ ให้กับนักการตลาดมือใหม่แล้วกัน
Evergreen Content เป็นคอนเทนต์ที่เนื้อหาไม่เน่า ไม่ตามกระแส ไม่อิงกับเทรนด์ใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะผ่านไปหลายเดือนหรือหลายปีก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ อีกข้อนั่นก็คือ เนื้อหาประเภทนี้ส่วนมากจะมีความละเอียดแบบลงลึก ไม่สามารถเล่าเนื้อหาให้ครบถ้วนแค่เพียง Facebook Caption ขนาด 3 บรรทัดได้ ดังนั้นเนื้อหาพวกนี้มักจะเจอตาม Website ต่างๆ ที่เขียนลง Details เอาไว้
เรียกได้ว่า Evergreen Content เป็นเนื้อหาเชิงความรู้พื้นฐาน Basic ก็ได้ ที่คนเริ่มต้นใหม่หรือ Beginner ไม่ว่าจะในเรื่องอะไรก็ตาม ต้องรู้ก่อนเพื่อเอาไปต่อยอดลงลึกนั่นเอง
เห็นแบบนี้แล้ว Evergreen Content มีความสำคัญมากมายนะ!
มาดูกันดีกว่า ว่าทำไมนักการตลาดสายคอนเทนต์ถึงมักจะให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ประเภทนี้กัน
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ SEO
พอเราตัดเรื่องอายุขัยของคอนเทนต์นั้นๆ ไป ความต้องการของคนที่อยากจะรู้เรื่องนี้นั้นมีอยู่ตลอด ทำให้มีค่ามากในระยะยาว และเมื่อคนอยากรู้เรื่องนี้ก็จะทำการค้นหา ทำให้โพสต์เนื้อหาประเภท Evergreen นั้นต่อให้ลงไปหลายปีแล้ว ก็ยังมีโอกาสเยอะมากที่ยังจะขึ้น Top Search ในหน้าแรกๆ เพราะความต้องการที่เข้ามาค้นหาอยู่บ่อยครั้ง ช่วยให้ระดับ SEO ในระบบ Search Engine นั้นดีขึ้นแบบไม่ต้องซื้อโฆษณาอีกด้วย
- ช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้ดี
เป็นผลพลอยได้จากข้อแรกนั่นเอง เพราะคนต้องการอยากอ่าน อยากรู้เยอะ ทำให้เนื้อหาประเภทนี้ถูกกดอ่านอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Website Traffic ก็เพิ่มขึ้นด้วย ยิ่งมีคนเลือกอ่านบทความของเรามากขึ้นจน Ranking สูงขึ้นเท่าไร แนวโน้มที่คน Search หาเรื่องเดียวกันแล้วจะเลือกอ่านจากเว็บของเราก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยจน Traffic ไหลเข้ามาเรื่อยๆ นั่นเอง
วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าคอนเทนต์ไหนคือ Evergreen Content หรือ Topical Content
คอนเทนต์อะไรก็ตามที่มีเนื้อหาจำพวก กฎ วิธี แนวทาง หรือเนื้อหาในเชิงข้อมูลแน่นๆ เราสามารถฟันธงแบบคร่าวๆ ได้เลยว่านี่แหละ คือ Evergreen Content
ความแตกต่างระหว่าง Evergreen Content กับ Topical Content
ช่วงต้นของบทความ ได้มีการพูดเปรยๆ เกี่ยวกับ Topical Content ไปบ้างแล้ว เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Evergreen Content กับ Topical Content กัน สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือ Topical Content เป็นเนื้อหาที่เสื่อมสลายไปตามกาลเวลานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นพวกเนื้อหาที่เกี่ยวกับ Trends หรือกระแสสังคมที่ดังแค่ช่วงเวลาหนึ่งก็ตาม เหมือนพอเวลาผ่านไปแค่ 1 อาทิตย์ก็ลืม ไม่มีใครจะมารื้อหามันมาอ่านอีกแล้ว มีคุณค่าในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้ไม่ได้ช่วยในเรื่องของการเพิ่ม SEO Ranking / Website Traffic หรือเพิ่ม Leads ใหม่ๆ สักเท่าไหร่
ถ้าจะให้แนะนำ สามารถทำทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไปได้เลย เพราะมันสามารถช่วยซึ่งกันและกันได้ หรือดูจาก Objective ให้มั่นใจก่อนว่าต้องการอะไร แล้วค่อยลงมือตามนั้น แต่ต้องจำไว้ว่าเนื้อหาประเภท Evergreen Content นั้นให้ผลในระยะยาว จะใจร้อนหรือคาดหวังผลที่รวดเร็วไม่ได้ ส่วน Topical Content ลงโพสต์แล้วจะเห็นผลทันที แถมต้องทำให้ทันกระแสด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทรนด์แบบนี้จะมาไวไปไว ต้องคอยอัปเดตตลอดเวลา และสามารถอ่านบทความดี ๆ เกี่ยวกับการตลาดดิจิตอลได้ที่ link
หากสนใจทำการตลาดออนไลน์เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของคุณให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เราพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาและพร้อมที่จะดูแลธุรกิจของ สามารถติดต่อเราได้ที่ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติมด้านล่างนี้เลย
Line Official: https://lin.ee/Qtmh0wh
Instagram:
Website:
Email: masterplanmedia.th@gmail.com
Tel: 090-950-5544