เจาะลึกความสำคัญของ “Sound Marketing” บน Tiktok
หลายๆอย่างเปลี่ยนไปหลังจาก Covid-19 ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายๆคน โดยเฉพาะแพลตฟอร์มดังที่มียอดผู้ใช้ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่าง Tiktok
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่เป็นอีกแอปพลิเคชันหนึ่งที่ยิ่งเล่นยิ่งติด สิ่งหนึ่งที่ทำให้ใครหลายๆคนติดแพลตฟอร์มอย่าง TikTok จนสามารถนั่งดูได้เป็นชั่วโมงๆ ก็คือ “เพลง” ต้องบอกว่าเสียงเพลงทั้งหลายมันกลายเป็น Sense Experience ที่สำคัญมากในการทำ Marketing ระยะยาวสำหรับแพลตฟอร์ม ทั้งเพลงแบบ Original เอง , เพลง Remix หรือเพลงที่เอามาตัดต่อ Recompose ตามสไตล์ Creative ของแต่ละ Users อีก ทำให้ Tiktok กลายเป็นพื้นที่ที่เรียกได้ว่าใช้ Sound Marketing ได้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพจริงๆ
แต่คำถามคือ แพลตฟอร์มอื่นๆอย่าง Instagram หรือ Youtube ก็มีฟีเจอร์ในการใช้เสียงเหมือนกัน และยังสามารถใช้เสียงดึงดูดจนเกิดเป็นคู่แข่งได้ ไม่รอช้า TikTok จึงต้องรีบออกมาแสดงจุดยืนที่แตกต่าง โดยการเผย Survey เพื่อแสดงผลว่า “ฉันนี่แหละ ยืนหนึ่งในวงการนี้!” มาดูกันผลสำรวจ Survey ของ Tiktok กันดีกว่าว่าจะเหนือกว่าคู่แข่งยังไง
โดย Survey Report เล่มนี้ Tiktok ได้ร่วมมือกันบริษัทตัวแม่แห่งการ Research อย่าง Kantar เพื่อหาความสำคัญของ Sound Marketing ในธุรกิจสื่อการตลาดและโฆษณา รวมไปถึงว่าทำไมเสียงเพลงต่างๆ บน Tiktok ถึงต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ จนกลายเป็นปัจจัยหลักในการดัน Engagement Rates บนแพลตฟอร์มในทุกวันนี้
1. ค่านิยมปัจจุบันของนักเล่น Tiktok ที่นิยมเสพเพลงบน Platform นี้มากกว่าที่อื่น
ยอมรับว่าหลายๆเพลงที่กำลังเป็นกระแสไม่ว่าจะเป็นไทยหรือเทศ มักจะมีจุดเริ่มต้นความดังเป็นพลุแตกแบบชั่วข้ามคืนจาก Tiktok มากกว่าช่องทางอื่นๆ โดยมีผลระบุว่าเพลงหรือแม้กระทั่งเสียงพูดบน Tiktok สามารถสร้างประสบการณ์ความสนุกได้มากกว่าช่องทางอื่นๆ ซึ่ง 66% ของ Users บอกว่าแม้ปิดเสียงหรือ Audio Turned Off แล้ว คนก็ยังชอบ Tiktok มากกว่า ในขณะที่วิดีโอไร้เสียงในช่องทางอื่นๆ มันดูแล้วรู้สึกสนุกไม่เหมือนกัน
2. แผ่นเสียงในแต่ละคลิป เป็นเหมือนตัว Anti-Scroll บน Tiktok
ด้วยความที่ Tiktok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างความบันเทิงด้วยภาพเคลื่อนไหวและเสียง ไม่เหมือนกับช่องทางอื่นๆที่อาศัยตาดูอย่างเดียว ทำให้คนรู้สึกว่าการใช้ทั้งหูและตาพร้อมกัน จะช่วยให้คนดูมีโฟกัสที่มากขึ้น เลยทำให้โอกาสการเลื่อนคอนเทนต์ผ่านไปเฉยๆนั้นลดลง กลับกันคืออยากหยุดดูเพราะเสียงพวกนั้นต่างหาก ทำให้ 73% บอกว่าถึงแม้จะเป็นโฆษณาบน TikTok ก็เถอะ พวกเขาก็ยังหยุดดูถ้าใช้ Sound Marketing เข้าช่วยควบคู่กับการนำเสนอที่ดี ซึ่งตัวเลข 73% นี้ก็สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆอีกด้วย
3. เสียงบน Tiktok เป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตผลงานที่หลากหลาย
จากผลสำรวจพบว่า เสียงบน Tiktok เป็นวัตถุดิบชั้นดีที่เป็นตัวกระตุ้นไอเดียให้กับ Users ทั้งการ Remix Duet หรือ Recompose ต่างๆ ก็เกิดขึ้นทันทีหลังได้ฟังเพลงหรือฟังเสียงเหล่านั้น จนเกิดเป็น UGC จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการดัดคลิปจากคนดังหรือคนไม่รู้จักก็ตาม จนทำให้สิ่งนี้กลายเป็น Culture วัฒนธรรมการใช้งานของ Users บน Tiktok ไปแล้ว โดยส่วนตัวแอดมินเป็นอีกคนที่สามารถนั่งไถฟีด Tiktok ได้ทั้งวัน เพราะคอนเทนต์แต่ละอันมีความ Creative มาก ถึงจะมาจากเสียงหรือเพลงเดียวกัน แต่สามารถฉีกการเล่าเรื่องได้น่าสนใจมากๆ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าจับตามองเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าเสียงนั้นสำคัญมากจริงๆ เพราะทำให้คนไม่เพียงแค่เลื่อนผ่านโดยการใช้สายตา แต่เป็นการใช้เสียงเพื่อช่วยดึง Attention ให้คนหยุดที่จะดูคลิปต่างๆ เท่านี้เราก็จะได้มากกว่าแค่ Awareness ธรรมดา ซึ่งเอาจริงๆ นักการตลาดหลายๆคนคงไม่แปลกใจ เพราะเสียงเนี่ยแหละที่เป็นปัจจัยที่ทำให้ Video Content ทุกวันนี้ฮิตฮิตมากในทุกๆแพลตฟอร์ม
จะมีคอนเทนต์อะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Tiktok อีก ติดตามต่อได้ที่บทความหน้า! และหากใครสนใจหาข้อมูลสามารถคลิ๊ก LInk ได้เลย
