ถึงกับร้องกรี๊ดกันเป็นแถว กับข่าวที่พูดถึงกันอย่างหนาหู เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ออกอัปเดต IOS. 14.5 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ App Tracking Transparency โดยเจ้าฟีเจอร์ใหม่นี้จะเน้นในเรื่อง Data Privacy เอาหละทีนี้นักการตลาดออนไลน์สายยิงแอด Facebook ทั่วโลกถึงกับกุมขมับ เรามาดูกันว่าเจ้าฟีเจอร์นี้จะสะเทือนวงการ Digital Marketing ขนาดไหนและเราจะรับมืออย่างไรกันบ้างคะ
เรามักจะผ่าน ๆ ตากันว่าการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะการยิงแอดในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ นั้นใช้ประโยชน์จาก Third-part data มานานมาก จนเราอาจหลงลืมไปว่า การที่มันแม่นยำขนาดนี้ เหมือนมีป้าข้างบ้านคอยดักฟัง ทั้งหมดทั้งมวลของข้อมูลล้วนเก็บมาจาก Consumer ทั้งนั้น นักยิงแอดอย่างเราๆจะรู้กันว่า ในระบบ Facebook Audience Insight นั้นมี Interest หลากหลายให้เลือกใช้ในการยิงแอดได้สบายๆ ตั้งแต่ อายุของคน หรือแม้กระทั่ง Interest และ Behavior ด้านการเมืองก็ตาม ทั้งหมดนี้ได้มาจากการเก็บสะสมมาเรื่อย ๆ จาก Third-party Data ต่าง ๆ นอกแพลตฟอร์ม Facebook หลังจากได้ข้อมูลมาแล้ว จากนั้นก็จะเอามาวิเคราะห์ด้วย AI ทำให้ Facebook สามารถแบ่งออกเป็น Segments ย่อย ๆ มากมายมหาศาล ไม่แปลกใจที่นักการตลาดจะสามารถเซ็นโฆษณาใน Facebook ได้ละเอียดและแม่นยำมาก
แต่อย่าเพิ่งลอยไปไหนค่ะ ถ้าเราอยู่ในมุมมองของ Consumer แล้วเราจะเห็นได้ว่าพวกเขาอยู่บนความเสียเปรียบมานาน เพราะอย่างที่รู้ ๆ Consumer ถูกตามเก็บ Data แทบจะตลอดเวลาโดยส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ หรือ ต่อให้รู้พวกเขาก็ไม่สามารถป้องกันได้ เลยเหมือนเป็นการมัดมือชกเอาข้อมูลส่วนตัวไปอย่างดื้อๆ ลองคิดภาพง่ายๆ เหมือนมีคนส่งลูกกรอกหรือผีมาตามแอบดูเราตลอด 24ชม.รู้เรื่องของเราทุกเรื่อง โดยที่เรามองไม่เห็นมันด้วยซ้ำ น่าขนหัวลุกไหมหละคะ
ผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่อง Privacy มากขึ้นซึ่ง Tim cook ผู้เปรียบเสมือนหมอผี ออกมาประกาศว่าต่อไปนี้ Application ใดที่จะทำการติดตามข้อมูลลูกค้าในแพลตฟอร์มตัวเอง ทาง Apple จะขอมีการแจ้งเตือนต่อผู้ใช้ และยังสามารถเลือกได้อีกว่ายังคงอนุญาตให้ติดตามหรือไม่โดย App Tracking Transparency ใน IOS 14.5 จะมีการแจ้งเตือนให้เรารู้ว่าเรากำลังถูกตามจากแอปนี้ที่กำลังใช้งานอยู่นะ เราจะยินยอมให้เค้าตามหรือไม่ และแน่นอนว่า เป็นใครก็คงเลือกที่จะตอบปฏิเสธ ในทางหลังบ้านของ Apple เองก็จะบังคับให้ทุกแอปที่จะเปิดใช้งานใน IPhone ต่อจากนี้แจ้งให้ชัดเจนว่าจะมีการเก็บ Dataของผู้ใช้ เราสามารถดูได้จาก App store มันสามารถบอกได้อีกว่าตัวแอปจะดึง Dataอะไรจากเราไปบ้าง
แน่นอนว่าในมุมของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ไม่แฮปปี้กับการกระทำของ Apple เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น กระทบกับธุรกิจรายย่อยนับหลายร้อยล้านรายในประเทศ เพราะจะทำให้โฆษณาบน Facebook นั้นไม่แม่นยำเหมือนเดิม ไม่แปลกใจที่ Facebookจะโมโหสุดขีด เพราะปีที่ผ่านมา Facebook ได้ทำรายได้มหาศาลจากค่าโฆษณา คนที่เสียประโยชน์ที่สุดก็คงจะไม่ใช่ใครที่ไหนไกล ลองคิดดูว่าผู้ประกอบการรายย่อยมากมาย ทุ่มงบให้กับ Facebook ไปอย่างมหาศาลเพราะเชื่อมั่นในความแม่นยำของการยิงแอด จนทำให้นี่เป็นตัวเลือกแรกและแทบจะตัวเลือกเดียวที่พวกเขาเลือกในการทำการตลาดออนไลน์ พอถึงเวลาที่การยิงแอด Facebook ไม่ได้แม่นยำเหมือนเดิม แน่นอนว่าจะต้องมีคนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเอาเงินไปทำการตลาดในรูปแบบและช่องทางอื่น จะว่าไปแล้วแอดก็เห็นด้วยกับทั้งสองฝ่ายนะคะ ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องการเข้าถึง Data โดยไม่แจ้ง หรือไม่ขออนุญาตนั้นมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดจริงๆ แต่การที่จะปิดทั้งระบบมันคงจะส่งผลกับ Digital Ecosystem เช่นกัน เราคงจะต้องหาตรงกลางและเปิดโอกาสให้มีการเข้าถึงกันบ้าง แต่ต้องอยู่ในความยินยอมของผู้ใช้ Iphone นั้น ๆ ด้วย
