Feature stories

วิธีการใช้ “Keyword Planner” เพื่อหาคีย์เวิร์ด

Share on facebook
Share on twitter
Share on email

หัวข้อที่น่าสนใจ

ซึ่งมาถึงขั้นตอนลงมือค้นหาไอเดียและข้อมูลของ Keyword ที่เราต้องการแล้ว.. โดย Google Keyword Planner จะมีวิธีการหา Keyword 2 แบบคือ

  1. Discover New Keyword – คือการหา Keyword ที่คนทั่วไปในช่วงเวลานั้นสนใจมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งสามารถใส่คีย์เวิร์ดได้สูงสุดถึง 10 คำ
  2. Volume and Forecasts: Search Volume – คือการทราบจำนวนการค้นหาของ Keyword ในแต่ละเดือนอยู่ที่เท่าไหร่

ลองมาดูวิธีการอย่างละเอียดกันดีกว่า ..

how to use key word planner1
Cr. https://ahrefs.com

1. Discover New Keywords

เมื่อคุณเข้ามาที่หน้า Keyword Planner แล้วให้เลือก Discover New Keywords จากนั้นคุณจะเห็นกล่องข้อความตามภาพด้านล่าง ซึ่งสามารถใส่ Keyword ที่ต้องการค้นหาลงไป และสามารถใส่ Keyword ได้สูงสุด 10 คำเพื่อเปรียบยอดจำนวนการค้นหาในแต่ละเดือน

how to use keyword planner2
Cr. https://ahrefs.com

คุณสามารถเลือกใช้คำที่เป็นคำ ๆ เดียว วลี หรือ ลิงก์ URL ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณก็ได้

10seo keyword suggestions
Cr. https://ahrefs.com

เมื่อเราคลิก Get Result แล้วคำที่คุณค้นหา รวมถึงคำที่เกี่ยวข้องก็จะปรากฏขึ้นมา และนอกจากนี้เราจะได้เห็นเมนูส่วนอื่น ๆ ที่สามารถนำไปใช้เพื่อวัดผล และต่อยอดให้เกิดประโยชน์เพิ่มเติมในการสร้างคอนเทนต์ ได้แก่

  • Average monthly searches : จำนวนการค้นหาโดยเฉลี่ยต่อเดือน โดนคำนวณจาก Keyword โดยตรงและคำที่ใกล้เคียงกัน
  • Competition : การแข่งขันของคำที่เราเลือก  ซึ่งแบ่งได้ทั้งหมด 3 ระดับคือ ระดับสูง คือ Keyword คำนั้น ๆ มีการแข่งขันอยู่ในระดับสูง ระดับกลาง คือ Keyword คำนั้น ๆ มีการแข่งขันอยู่ในระดับปานกลาง ระดับต่ำ คือ Keyword คำนั้น ๆ มีการแข่งขันอยู่ในระดับต่ำ มีคนค้นหาน้อยกว่า ทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมา
  • Top of page bid (low range) : การแสดงราคา Bid หรือราคาประมูลเฉลี่ยในตำแหน่งต่ำสุด หรือตำแหน่งลำดับท้าย ๆ  ของลำดับการค้นหาบน Search Engine
  • Top of page bid (high range) : การแสดงราคา Bid หรือราคาประมูลเฉลี่ยในตำแหน่งสูงสุด หรือตำแหน่งบน ๆ ของลำดับการค้นหาบน Search Engine ภาพด้านล่าง เป็นตัวอย่างการค้นหา Keyword ทั้ง 10 คำ
11google keyword planner seed keywords
Cr. https://ahrefs.com

หรือว่าจะลองใส่เป็นลิงก์ URL ก็สามารถทำได้เช่นกัน..

13keywords and url
Cr. https://ahrefs.com

Here’s another trick: you can enter up to ten seed keywords and a URL at the same time. ข้อจำกัดในการใช้เครื่องมือ Google จะแนะนำ Keyword เพิ่มเติมให้ไม่เกิน 2000 -3000 คำ จากตัวอย่างด้านล่างนี้ เราจะเห็นว่าผลลัพธ์จากการค้นหาจะมีไอเดียแนะนำมาให้ 4,715 คำ

15keyword ideas google keyword planner
Cr. https://ahrefs.com

2. Get search volume and forecasts

เมื่อเราได้ Keyword ครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว เราจะเริ่มใช้เครื่องมือ Forecast เพื่อค้นหาคำที่จะสามารถมาเป็นไอเดียในการเขียนคอนเทนต์ได้ในขั้นตอนต่อไป

18forecast google keyword planner
Cr. https://ahrefs.com

ในฟีเจอร์นี้จะไม่ปรากฏ Keyword ที่แนะนำ แต่เราจะเห็นไ้ว่า จำนวนคลิกและ  Impressions มีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งนักการตลาดจะสามารถคาดการณ์ได้ว่า Keyword เหล่านั้น เหมาะสมที่จะนำไปสร้างแคมเปญโฆษณาหรือไม่สำหรับ 30 วันที่จะถึงข้างหน้า และนอกจากนี้ ราคาของ Keyword โดยเฉลี่ย, CTR, CPC ก็จะปรากฏให้เห็นด้วยเช่นกัน**

  • Click Through Rate (CTR) หรือ อัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการดูอัตราการคลิกโฆษณา หรือ เว็บไซต์ ต่อจำนวนการเห็นของผู้ใช้งานทั่วไปในอินเทอร์เน็ต
  • Cost Per Click (CPC คือการที่เจ้าของสินค้า หรือเว็บไซต์ จ่ายเงินให้กับผู้ที่เผยแพร่แคมเปญโฆษณา เมื่อเกิดการคลิก และมีข้อตกลงในการจ่ายเงินตามแต่ตกลง

โดยส่วนใหญ่แล้ว นักการตลาดมักใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อทำแคมเปญโฆษณา ซึ่งคุณสามารถเข้าไปที่ฟีเจอร์ “Historical Metrics” เพื่อดูผลลัพธ์ของ Search Volume ได้ไกลถึง 12 เดือนย้อนหลัง

keyword historical metrics
Cr. https://ahrefs.com

เพียงเท่านี้เราก็จะพอสามารถหาไอเดีย Keyword เพื่อนำมาใช้ได้แล้ว ..บทความต่อไปจะเป็นการเผยเทคนิคที่เจ๋งกว่านี้แน่นอน รอติดตามนะครับ..

Cr. ahrefs, stepstraining