ในช่วงต้นปี เราคงเห็นหลายแบรนด์เล่นกระแส ‘มูเตลู’ กันหลากหลายแบรนด์ ทั้งเรื่องสีมงคล สิ่งประดับต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมดวง นำโชคลาภ ความมั่งคั่ง หรือ การนำเรื่องมูเตลูไปประยุกต์ทำคอนเทนต์ เพื่อเสริมการตลาดจนกลายเป็น การตลาดรูปแบบใหม่อย่าง “การตลาดสายมู หรือ มูเก็ตติ้ง (Muketing)”
แล้วทำไมการตลาดสายมูถึงมาแรงล่ะ? จริง ๆ แล้วเรื่องมูเตลูเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ตั้งแต่ เรื่องดูดวง, การบนบานศาลกล่าว, ขอพร, ขอหวย, การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปจนถึงการใส่เสื้อมงคล มีของประดับนำโชค ฯลฯ วันนี้เราเลยพาไปดูว่าคนไทยมีความเชื่อเรื่องมูเตลูมากน้อยขนาดไหน สายมูด้านใดบ้างที่ได้รับความนิยม ไปจนถึงทำไมหลายแบรนด์ถึงมาจับกระแสการตลาดสายมู แล้วถ้าเราอยากเล่นบ้างต้องทำอย่างไร? ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปดูด้วยกันเลย!
ทำความรู้จักคำว่า “มูเตลู” – สายมูคืออะไร
สายมู หรือ มูเตลู คือคำจำกัดความของคนที่มีความเชื่อ, การบูชาสิ่งลี้ลับ, ไสยศาสตร์, การเสริมสิริมงคล, จากเครื่องรางของขลัง, เสริมดวงชะตา โชคลาภ ฯลฯ ซึ่งสายมูนั้นแบ่งออกได้หลายสายในไทย
พาดู Insight ทำไมคนไทยถึงเป็นสายมูกันมากขึ้น?
คนเรากว่าจะประสบความสำเร็จ ย่อมมีอุปสรรคมาคอยคั่นเส้นทางที่เราเลือกเดินเสมอ เหมือนกับสำนวนที่ว่า “ชีวิตนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ” ซึ่งอุปสรรค, ปัญหา, ความไม่แน่ไม่นอนของอนาคตนั้น ส่งผลทำให้เราเกิดความกังวล และความไม่มั่นใจ ทั้งเรื่องหน้าที่การงาน, ความรัก, และสุขภาพ โดยเฉพาะช่วงนี้มีปัญหาโควิดสายพันธุ์ใหม่ระบาดจนผู้ป่วยเฉียดหลักหมื่นทุกวัน ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่พุ่งสูงขึ้นสวนทางกับรายรับที่เราได้
แล้วอย่างนี้เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ตนเองผ่านช่วงเวลายากลำบากเหล่านี้ไปได้? เพราะอย่างนั้นทุกคนก็คงต้องหาที่พึ่ง สำหรับยึดเหนี่ยวจิตใจกันทั้งนั้น ซึ่งแต่ละคนนั้นย่อมมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจต่างกันออกไป ไม่ว่าจะยึดเหนี่ยวจากคนที่เรารัก ศาสนา รวมไปถึงความเชื่อด้านต่าง ๆ ทำให้คนไทยหันเข้ามาสู่สายมูเตลูกันมากขึ้น
‘คนไทยกว่า 52 ล้านคน หรือมากกว่า 80% ของประชากรทั้งหมด มีความเชื่อเรื่องโชคลาง (Superstitious)’
จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU (College of Management, Mahidol University) ได้ทำการสำรวจข้อมูลโดยใช้หัวข้อว่า ‘การตลาดของคนอยู่เป็น’ ที่สำรวจกลุ่มตัวอย่างคนไทยทั้งหมด 1,200 คน พบว่า คนไทยที่เป็นสายมูเป็นผู้หญิง 70% และผู้ชาย 30% มีความสนใจในเรื่องความรักมากที่สุด, รองลงมาคือ เรื่องโชคลาภ เงินทอง และเรื่องหน้าที่การงาน กับสุขภาพตามลำดับ
อีกทั้งเรื่องมูเตลู เกี่ยวกับโชคลาภที่ส่งผลต่อคนไทยมากที่สุดนั้นมีทั้งหมด 5 อันดับ สามารถแบ่งได้ดังนี้
1. พยากรณ์ โหราศาสตร์ ลายมือ ไพ่ยิปซี
เรื่องดูดวงกับคนไทยเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะดูกับแม่หมอสำนักไหน ๆ ด้วยการดูลายมือ, ไพ่ยิบซี, เซียมซี, ความเชื่อเรื่องความฝันเป็นลางบอกเหตุ ไปจนถึงวัฒนธรรมของคนไทยที่มีการใช้การพยากรณ์มาร่วมด้วย เช่น การทำนายพระโคในวันพืชมงคล เป็นต้น
2. พระเครื่อง และวัตถุมงคล
ในแต่ละศาสนาย่อมมีวัตถุมงคลที่เราสามารถพกไว้กับตัวเพื่อใช้ในการบูชา และยึดเหนี่ยวจิตใจ เช่น พระเครื่อง พระพุทธรูปที่สร้างเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าของศาสนาพุทธ, พระสังกัจจายน์ และตะกรุดสาริกามหาลาภที่พกแล้วจะทำให้เด่นเรื่องโชคลาภ การค้าขาย, หลวงปู่ทวด และหลวงพ่อพระใส ที่ช่วยคุ้มครอง และปกป้องรักษาเราจากภัยนตรายต่าง ๆ หรือจะเป็นหินนำโชคที่เป็นทั้งเครื่องประดับ และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเราเอง เป็นต้น
3. สีมงคล
เคยมั้ย? แต่ละวันมานั่งเช็คเสื้อผ้าทำงานที่จะใส่ว่า วันนี้ควรใส่สีอะไรถึงจะทำให้หน้าที่การงานรุ่ง, การเงินดี, สุขภาพไม่มีปัญหา ฯลฯ ซึ่งเรื่องการนำสีมงคลของคนไทยนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่สีเสื้อผ้าเท่านั้น แต่รวมไปถึงสีของกระเป๋า, เครื่องประดับที่เราพกพากัน ฯลฯ ที่เป็นสีมงคลตามวันเกิด หรือเป็นตารางสีมงคลประจำปี ซึ่งแต่ละปีนั้นก็จะแตกต่างกันออกไปนั้นเอง
4. เลขมงคล
ทุกสิ่งรอบตัวนั้นล้วนมีตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ตั้งแต่เราเกิดมาก็มีเลขบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน-รถ, เบอร์โทร, เลขที่ห้อง ฯลฯ อีกทั้งในต่างประเทศก็มีความเชื่อสายมูเรื่องเลขมงคลเหมือนคนไทยเช่นกัน กับ ‘Lucky Number’ ที่เป็นเลขมงคล กับเลขอัปมงคงที่คนมักเลี่ยงกัน เช่น เลข 13 เป็นต้น
5. เรื่องเหนือธรรมชาติ
ถ้าพูดถึงสิ่งลี้ลับ คนเราก็คงนึกถึงเรื่อง ภูตผีปีศาจ, เรื่องเล่า ,ตำนานต่าง ๆ กันเป็นอย่างแรก จนเราได้ยินเรื่องที่คนเล่าสู่กันฟัง หรือว่า เราไปเที่ยวไหนก็อาจจะต้องไปไหว้ไปคำนับที่นี้ก่อน เพราะช่วยเลือกความรัก โชคลาภ การงาน ฯลฯ
แล้วคนไทยเสพข่าว เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องมูจากทางไหน? จากวิจัยพบว่าคนไทยนั้นได้รับข้อมูลจากหลายช่องทาง เช่น โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ (73.8%), ครอบครัว เพื่อน และบุคคลรอบข้าง (59.6%), ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์นั้น ๆ (29.7%), หนังสือพิมพ์และนิตยสาร (20.1%) และวิทยุ-สื่อโทรทัศน์ (19.6%)
จะเห็นได้ว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยมีความเชื่อเรื่องโชคลาง (Superstitious) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หลายแบรนด์หันมาทำการตลาดรูปแบบใหม่อย่าง “Muketing” รวมไปถึงยังมีธุรกิจใหม่ในไทยที่เกี่ยวข้องกับมูเตลูด้วย จะมีอะไรบ้างก็ไปดูกันได้เลย
เมื่อสายมูมาแรง! หลายแบรนด์จึงหันมาทำการตลาด ‘Muketing’
Muketing หรือ Faithful Marketing ตอนนี้มีหลากหลายแบรนด์ที่หันมาทำคอนเทนต์โฆษณาสายมู ออกมาเพื่อโปรโมทสินค้าของแบรนด์ตัวเอง โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ของกินเสริมสิริมงคล, แต่งบ้านรับโชคตามสไตล์สายมู, เครื่องใช้ของประดับก็มีโปรโมทให้เราได้เห็นกัน โดยเราขอยกตัวอย่างแบรนด์ที่มีการเล่นกับกระแสมูเตลู รวมไปถึงธุรกิจชื่อดังที่เกิดจากกระแสชาวสายมู สามารถแบ่งได้ดังนี้
แบรนด์อสังหา – จัดบ้าน เลือกทำเลอย่างไร ให้ถูกใจสายมู
เริ่มต้นปีใหม่ ใคร ๆ ก็ต้องอยากจัดบ้านใหม่กันเพื่อส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันทั้งนั้น ทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์นั้นหันมาเล่นคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และมูเตลู ไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบไหนที่อยู่แล้วเฮง หรือเสื้อผ้ามงคลที่ใส่ออกจากบ้านก็มงคลได้แบบโปรเตลู ของแสนสิริ และ ของแต่งบ้านสไตล์มูนิมอล ของบริทาเนีย เป็นต้น
แบรนด์ไลฟ์สไตล์ และอาหาร – เรื่องพัก เรื่องกิน นั้นเป็นเรื่องใหญ่
เรื่องของไลฟ์สไตล์ และการกิน เป็นสิ่งที่อยู่กับเราในทุก ๆ วัน ตั้งแต่สไตล์การใช้ชีวิต การท่องเที่ยว ไปจนถึงอาหารการกิน ซึ่งการไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตนี่แหละที่สามารถสอดแทรกความเป็นมูเตลูได้ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อสีมงคลสำหรับทำงาน, สถานที่ที่เราต้องไปสักการะ เพื่อขอเรื่องงาน หรือความรัก ทำให้แต่ละแบรนด์หันมาจับประเด็นของมูเตลูและเล่นกับคอนเทนต์ด้านนี้มากขึ้น เพื่อโปรโมทสินค้า และบริการของตนเอง รวมถึงทำให้ภาพลักษณ์ และช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ด้วยนั่นเอง เช่น แบรนด์ True Digital Park ที่โปรโมทสินค้าสีมงคล ที่สายมูนอกจากแต่งเสื้อสีมงคลไม่พอ แต่เรื่องอาหารการกินของเราก็ต้องมูด้วย!, Sunquick ที่เล่นกับการแก้ชงด้วยเมนูของตัวเอง รวมไปถึงแบรนด์ Shopee ที่แจกพิกัดสถานที่ต้องไปไหว้สำหรับสายมู เพื่อขอเรื่องความรัก
จากหลากหลายแบรนด์ที่เรายกตัวอย่างมาให้ทุกคนดู ทำให้รู้ว่า อิทธิพลของมูเตลูนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิด เพราะนอกจากหลายแบรนด์จะหันมาทำคอนเทนต์โปรโมทสินค้าตนเองตามสไตล์สายมูแล้ว ยังมีแบรนด์เกิดใหม่ที่ได้ลูกค้าสายมูช่วยผลักดันจนธุรกิจรุ่งเรือง
จากแรงศรัทธา สู่ธุรกิจใหม่สายมู
รู้หรือไม่? ว่าธุรกิจที่เข้าวงการสายมูเตลูแบบเต็มตัวนั้น เป็นธุรกิจเกิดใหม่อย่าง SMEs กันทั้งนั้น แต่ยอดโตพุ่งขึ้นมากเป็นเท่าตัว ซึ่งคุณอนัญญา โตแสงชัย และผู้บริหาร บจ.Horosociety ยังได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค และการทำตลาดสายมู พบว่า ‘คอนเทนต์ประเภทมูเตลูนั้นจะได้รับความนิยม และมี Engagement มากกว่าคอนเทนต์ประเภทอื่น ๆ’ ซึ่งธุรกิจที่เป็นธุรกิจน้องใหม่ไฟแรงเข้าวงการสายมูแบบเต็มตัว ตอนนี้ก็มีแบรนด์ Horosociety ธุรกิจที่มีขายสินค้าของมงคล, สินค้าแฟชั่นเสริมดวง รวมไปถึงการดูดวง กับนักพยากรณ์ที่เราสามารถเลือกได้ว่าอยากจะดูดวงกับใคร, ธุรกิจ Horowall ดีไซน์วอลเปเปอร์โทรศัพท์เสริมดวงแบบรายคน, ธุรกิจ Ravipa แบรนด์เครื่องประดับสายมูที่มีทั้งสร้อยข้อมือศักดิ์สิทธิ์ สร้อยคอ ต่างหู ซึ่งแบรนด์ถือเป็นแบรนด์ธุรกิจใหม่ที่ใช่ว่าจะมาเล่น ๆ เพราะเพียงปีเดียวมียอดโตสูงถึง 2,000% กันเลยทีเดียว!
จะเห็นได้ว่า คนไทยนั้นมีความเชื่อเรื่องโชคลางมากกว่าที่เราคิด จนทำให้การตลาดสายมูโตขึ้นแบบเท่าตัว ฟังแบบนี้แล้ว หลายคนคงเริ่มสนใจอยากลองจับกระแสการตลายแบบ Muketing กันแล้วใช่มั้ย? แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร? ทุกคนก็ลองวิเคราะห์แบรนด์ของตนเอง จากนั้นลองดูว่า สายมูนั้นมีประเภทอะไรบ้าง แล้วเรื่องมูเตลูนั้นสามารถมาเล่นคอนเทนต์ไหนบ้างที่ช่วยโปรโมทแบรนด์ของเราได้ หรือยังมีตลาดสายมูด้านไหนบ้างที่ยังไม่มีคนเล่นมากนักนั่นเอง
ถ้าอยากติดตามบทความดีๆ สามารถไปอ่านต่อได้ที่ link
Contact US
Line Official : https://lin.ee/Qtmh0wh
Instagram :
E – mail : masterplanmedia.th@gmail.com
Tel : 090 – 950 – 5544
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก Brandbuffet. Everydaymarketing. Positioningmag. Thairath